แบบฝึกหัดก่อนเรียน
1. งานในขั้นตอนสุดท้ายของการจัดทำเอกสาร คือ
ก. การบันทึกแฟ้มข้อมูลลงในสื่อต่าง ๆ
ข. การทำสำเนาแฟ้มข้อมูล
ค. การพิมพ์เอกสารออกทางเครื่องพิมพ์
ง. การตกแต่งเอกสารให้สวยงาม
2. การสั่งพิมพ์เอกสารออกทางเครื่องพิมพ์ด้วยการกดปุ่ม Print ควรใช้ในกรณีใด
ก. ต้องการดูรายงานด่วนโดยไม่สนใจรูปแบบหรือความถูกต้อง
ข. สั่งพิมพ์เอกสารอย่างรวดเร็ว
ค. แน่ใจว่ารูปแบบเอกสารและการกำหนดค่าการพิมพ์ถูกต้องดีแล้ว
ง. ถูกทุกข้อ
3. ถ้าสั่งพิมพ์ในกรอบ Page range ในช่อง Pages ว่า “5, 9-10” หมายถึงให้พิมพ์
ก. หน้าที่ 5 และหน้าที่ 9 ถึงหน้าที่ 10
ข. หน้าที่ 5 หน้าที่ 9 และหน้าที่ 10
ค. หน้าที่ 5 ถึงหน้าที่ 10
ง. คำสั่ง Error ไม่สามารถทำการพิมพ์ได้
4. ถ้าต้องการพิมพ์เฉพาะหน้าปัจจุบันที่เคอร์เซอร์อยู่ จะต้องกำหนดที่กรอบ Page range อย่างไร
ก. All
ข. Page
ค. Present Page
ง. Current Page
5. ถ้าเอกสารฉบับหนึ่งมี 50 หน้า แต่ต้องการพิมพ์เฉพาะหน้า 29 ให้ใช้คำสั่ง
ก. All
ข. Page
ค. Print
ง. Current Page
6. ถ้าเอกสารฉบับหนึ่งมี 10 หน้า และต้องการสั่งพิมพ์จำนวน 3 สำเนา จะได้เอกสารทั้งหมดกี่แผ่น
ก. 3 หน้า
ข. 13 แผ่น
ค. 30 แผ่น
ง. สั่งให้พิมพ์หลายสำเนาไม่ได้
7. ถ้าทำการเลือกเครื่องพิมพ์แล้วไม่พบชื่อยี่ห้อ และรุ่นของเครื่องพิมพ์ที่เราจะสั่งพิมพ์ แสดงว่า
ก. เป็นเครื่องพิมพ์รุ่นเก่า ซึ่งโปรแกรม Word 2003 ไม่รู้จัก
ข. เป็นเครื่องพิมพ์รุ่นใหม่ ซึ่งโปรแกรม Word 2003 ไม่รู้จัก
ค. ไม่ได้ต่อสายเครื่องพิมพ์ระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ และเครื่องพิมพ์เอาไว้
ง. เครื่องคอมพิวเตอร์ที่เราใช้งานอยู่ไม่มีไดรฟ์เวอร์ของเครื่องพิมพ์
8. Print Preview คือ
ก. การขอดูเอกสารก่อนพิมพ์จริง
ข. การสั่งพิมพ์เอกสารเพื่อทดสอบเครื่องพิมพ์
ค. การขอดูเอกสารทั้งหมดบนจอภาพ
ง. การสั่งพิมพ์เอกสารอย่างหยาบ ๆ ออกทางเครื่องพิมพ์
9. ถ้าเลือกใช้เครื่องพิมพ์ไม่ตรงกับค่าที่ได้กำหนดไว้ในเครื่อง มักจะเกิดปัญหาตามข้อใด
ก. สั่งพิมพ์แล้วเครื่องพิมพ์ไม่ทำการพิมพ์ให้
ข. พิมพ์เอกสารออกมาเป็นตัวหนังสือที่อ่านไม่ออก
ค. พิมพ์การจัดรูปแบบของเอกสาร เช่น ฟอนต์, ขนาด ฯลฯ ผิดเพี้ยนไป
ง. ถูกทุกข้อ
10. การเลือกเอกสารที่จะพิมพ์เฉพาะหน้าที่กำลังใช้งานอยู่จะต้องเลือกรายการอะไร
ก. All
ข. Pages
ค. Selection
ง. Current Pageบทที่ 7-11 http://krongkarnbeer.blogger.com/
หน่วยที่ 5 สิ่งที่น่ารู้ของไฟล์และการสั่งพิมพ์
แสดงตัวอย่างและรายละเอียดของไฟล์ขณะสั่งเปิด
ขณะสั่งเปิดไฟล์นั้น จะเห็นไดอะล็อกบ็อกซ์ Open ซึ่งนอกจากจะแสดงชื่อไฟล์ในแต่ละโฟลเดอร์แล้ว ยังมีคำสั่งที่ช่วยให้ทำงานกับไฟล์ได้ง่ายและสะดวกขึ้น เช่น แสดงตัวอย่างเนื้อหาในไฟล์ก่อนที่จะเปิด
1. คลิกปุ่ม Open
2. คลิกไฟล์ที่ต้องการ
3. คลิกปุ่ม Views (มุมมอง) แล้วคลิก Preview (แสดงตัวอย่าง) จะเห็นเนื้อหาในไฟล์ที่กรอบด้านขวา
สร้างไฟล์สำรองทุกครั้งที่บันทึก
ในบางครั้งหากสั่งลบไฟล์โดยไม่ตั้งใจ หรือต้องการกลับไปใช้ไฟล์เดิมก่อนจะแก้ไขแล้ว Save ลงไป หรือไฟล์เสียหายเปิดไม่ได้ ก็อาจต้องย้อนกลับไปใช้ไฟล์สำรอง (backup) ซึ่งจะต้องสั่งให้ Word สร้างไว้ก่อน โดยไฟล์สำรองที่ Word สร้างให้นั้น จะมีชื่อว่า “Backup of…” (แฟ้มของ....) วิธีสั่งให้
Word สร้างไฟล์สำรองก่อนบันทึกทุกครั้ง ทำดังนี้
2. ที่แท็บ Save ให้คลิกเลือก Always create backup copy (สร้างเอกสารสำรองทุกครั้ง)
3. คลิกปุ่ม OK ไฟล์สำเนาที่สร้างจะมีสกุลเป็น .wbk
เก็บบันทึกไฟล์ในรูปแบบอื่น
เป็นการบันทึกไฟล์ในรูปแบบอื่นที่ไม่ใช่เอกสารของ Word (.doc) เช่น ไฟล์ข้อความ (.txt) หรืออื่น ๆ
2. เลือกไดรฟ์หรือโฟลเดอร์ที่จะเก็บไฟล์
3. ตั้งชื่อไฟล์ใหม่
§ ในขั้นที่ 3 ถ้าตั้งชื่อใหม่เหมือนไฟล์เอกสารเดิม แต่เลือกเป็นไฟล์คนละชนิด ข้อมูลก็จะ
แยกเป็นไฟล์ใหม่ไม่ซ้ำกัน
§ คลิกเลือกรูปแบบของไฟล์ที่จะบันทึก
§ ถ้าใน Windows ของนักเรียนตั้งไว้ว่าไม่ต้องแสดงสกุลของไฟล์ที่ Windows รู้จักแล้ว ก็
จะไม่มีวงเล็บ เช่น (* .doc, .xls, .ppt) ต่อท้าย
4. คลิก Save
5. ถ้าเลือกเปลี่ยนรูปแบบไฟล์เป็นแบบง่าย ๆ เช่น ไฟล์ข้อความธรรมดา จะแจ้งเตือนว่าอาจทำให้ข้อมูลบางส่วน เช่น รูปแบบข้อความ หรือรูปภาพ แปลงไปได้ไม่ครบสมบูรณ์ และจะให้เลือกการเข้ารหัสภาษาไทยว่าเป็นรหัสอะไรด้วย คลิกปุ่ม OK
นำไฟล์จากโปรแกรมอื่นมาใช้
2. เลือกไดรฟ์หรือโฟลเดอร์ที่จะเก็บไฟล์
3. คลิกเลือกรูปแบบของไฟล์ที่จะเปิด
4. คลิกเลอกไฟล์
5. คลิก Open
§ ถ้าเลือกเปิดเป็น Text File (*.txt) ก็จะได้เนื้อหาในเอกสารเป็นข้อความล้วน ๆ ดังนี้
การกู้ไฟล์
ขณะใช้งานอาจเกิดเหตุสุดวิสัย เช่น ไฟดับหรือเครื่องแฮงค์ ทำให้ไม่ได้สั่งบันทึกหรือปิดโปรแกรมโดยสมบูรณ์ เมื่อเปิดโปรแกรมครั้งถัดไป Word จะกู้งานที่ทำค้างไว้ให้ แต่จะกู้ได้เฉพาะข้อมูลที่บันทึกครั้งล่าสุด ถ้าไม่ได้บันทึกหลังจากที่แก้ไข สิ่งที่ทำไว้ก็จะหายหมด เพื่อป้องกันข้อมูลหายโดยไม่ได้สั่งบันทึก อาจกำหนดให้ Word บันทึกไฟล์ที่ใช้อยู่เป็นระยะ ๆ ส่วนรายละเอียดต่าง ๆ มีดังนี้
ตั้งค่าการกู้ไฟล์
2. คลิกที่แท็บ Save
3. คลิกเลือก Save Auto Recover info every (บันทึกการกู้ข้อมูลอัตโนมัติทุก) แล้วระบุช่วงเวลาที่จะบันทึกว่า ทุก ๆ กี่นาที
4. คลิกปุ่ม OK
กู้ไฟล์คืน
1. เมื่อเปิดเครื่องหรือโปรแกรมหลังจากที่เกิดปัญหาขึ้น ไฟล์ที่เคยเปิดค้างไว้ตอนที่มีปัญหาจะถูกแสดงไว้ในทาสก์เพน document Recovery (การกู้เอกสารคืน)
2. คลิกปุ่มลูกศรด้านหลังของชื่อไฟล์ที่ต้องการเปิด
§ ให้สังเกตข้อความต่อท้ายชื่อไฟล์ ถ้ามีคำว่า [Recovered] [ถูกกู้คืน] จะเป็นไฟล์ที่มีการ
แก้ไขและบันทึกการกู้คืนไว้โดยอัตโนมัติก่อนที่ระบบจะมีปัญหานั้นเอง ซึ่งจะดูรายละเอียด เช่น วันที่ เวลาที่บันทึกไว้ล่าสุดได้ด้วย
§ ส่วนไฟล์ที่มีคำว่า [Original] [ดั้งเดิม] ต่อท้าย จะเป็นไฟล์ต้นฉบับก่อนที่จะแก้ไข หรือ
เป็นไฟล์ที่ได้สั่งบันทึกไว้เองครั้งล่าสุด
3. คลิกคำสั่งที่ต้องการดังนี้
§ View เปิดแสดงเนื้อหาของไฟล์
§ Save As บันทึกไฟล์ โดยสามารถเลือกบันทึกในชื่อใหม่หรือชื่อเดิมก็ได้
§ Delete ลบไฟล์ที่เลือกนั้นทิ้งไปเลย
§ Show Repairs ให้แสดงการแก้ไฟล์ที่ได้ทำไป โดยตัวเลือกนี้มีเฉพาะไฟล์ Recovered (ถูกกู้คืน) เท่านั้น
4. คลิกปุ่ม Close เพื่อปิดทาสก์เพนการกู้คนเอกสาร
เปิดและซ่อมแซมเอกสาร
หากเอกสารที่เคยใช้งานถูกปิดไปแบบกะทันหัน เช่น เครื่องแฮงค์ ทำให้ไฟล์เสียหาย เมื่อสั่งเปิดไฟล์แบบปกติแล้วไม่สามารถเปิดได้ อาจจะใช้วิธีสั่งให้โปรแกรมเปิดแบบซ่อมแซมได้ดังนี้
1. คลิกที่ปุ่ม Open
2. คลิกชื่อไฟล์ที่ต้องการเปิด
3. คลิกที่ลูกศรหลังปุ่ม open แล้วเลือก Open and repair (เปิดและซ่อมแซม) ในปุ่ม open ยังมีตัวเลือกการเปิดไฟล์อื่น ๆ ดังนี้
§ Open Read Only (เปิดเพื่ออ่านอย่างเดียว) เมื่อมีการแก้ไขและสั่งบันทึก Word
จะให้ตั้งชื่อใหม่
§ Open as Copy (เปิดเป็นสำเนา) เปิดเอกสารโดย Word จะสร้างไฟล์ชุดก็อบปี้ขึ้นมาอีก
ชุดหนึ่ง
§ Open in Browser (เปิดในบราวเซอร์) เปิดเอกสารเว็บเพจด้วยบราวเซอร์
§ Open with Transform (เปิดด้วยการแปลง ) ใช้เปิดเอกสาร .xml
ย่อ ขยาย และทำงานกับวินโดวส์เอกสาร
อาจเรียกหลาย ๆ โปรแกรมของ Office 2003 ขึ้นมาใช้พร้อม ๆ กัน และในแต่ละโปรแกรมก็อาจเปิดหลาย ๆ ไฟล์เอกสารขึ้นมาใช้งานพร้อม ๆ กันได้ โดยที่แต่ละไฟล์เอกสารจะแสดงเป็น 1 วินโดวส์ อาจเปลี่ยนให้วินโดวส์มีขนาดตามต้องการโดยคลิกลากเมาส์ที่ขอบวินโดวส์ (หรือคลิกลากที่มุมเพื่อเปลี่ยนขนาดทั้งในแนวกว้างและสูงไปพร้อม ๆ กัน) นอกจากนี้นักเรียนจัดการกับวินโดวส์ของเอกสารหรือโปรแกรมด้วยวิธีต่าง ๆ ดังรูป
ปุ่ม Minimize ยุบวินโดวส์ของเอกสารให้เป็นแถบไอคอนเล็ก ๆ บนทาสก์บาร์
ปุ่ม Maximize ขยายวินโดวส์ให้ใหญ่ขึ้นจนเต็มหน้าจอ
ปุ่ม Restore ย่อขนาดของวินโดวส์ให้เล็กน้อยลง (ไม่เต็มจอ) สามารถใช้เมาส์คลิกลากตรงขอบด้านใดก็ได้ เพื่อลดหรือขยายพื้นที่วินโดวส์
ใน Windows XP เมื่อเปิดวินโดวส์มากจนแสดงบนทาสกบาร์ไม่หมด ปุ่มของโปรแกรมเดียวกันจะถูกรวมกัน เมื่อจะเรียกใช้ก็คลิกปุ่มรวม แล้วค่อยเลือกปุ่มที่ต้องอีกที
ดูตัวอย่างก่อนพิมพ์ (Print Preview)
เอกสารที่ทำเสร็จแล้ว สามารถตรวจดูความเรียบร้อยก่อนที่จะสั่งพิมพ์จริงได้ โดยใช้ตัวอย่างก่อนพิมพ์ (Print Preview) ซึ่ง Word จะแสดงเอกสารแบบเต็มแผ่นเหมือนกับตอนพิมพ์ออกเครื่องพิมพ์จริง
1. คลิกปุ่ม Print Preview (ตัวอย่างก่อนพิมพ์)
2. คลิกปุ่ม Next Page (หน้าถัดไป) บนแถบสโครลบาร์ เพื่อดูหน้าต่อไปและปุ่ม Previous Page
(หน้าก่อนหน้า) เพื่อดูหน้าก่อนหน้า
3. ถ้าขยายดูส่วนใดให้ใช้เมาส์คลิกที่บริเวณนั้นเพื่อขาย และถ้าจะลดขนาดลงเท่ากับปกติให้ใช้เมาส์คลิกที่เดิมอีกครั้ง
4. หรือระบุขนาดที่ช่อง Zoom (ย่อ/ขยาย) แล้วกำหนดขนาดเป็นเปอร์เซ็นต์
5. ถ้าจะแก้ไขข้อความให้คลิกปุ่ม Magnifier (แว่นขยาย) เพื่อยกเลิกการใช้เครื่องมือขยาย แล้วคลิกบนเอกสาร จากนั้นแก้ไขข้อความตามต้องการ
6. คลิกปุ่ม Multiple Pages (หลายหน้า) เมื่อต้องการดูเอกสารหลาย ๆ หน้าพร้อมกัน
7. คลิกปุ่ม Close เพื่อกลับสู่หน้าเอกสารปกติ
สั่งพิมพ์เอกสาร
2. เลือกเครื่องพิมพ์ ถ้ามีหลายเครื่อง ให้คลิกปุ่ม ข้างช่อง Name (ชื่อ) แล้วเลือกเครื่องพิมพ์ที่ต้องการ
3. ระบุหน้าของเอกสารที่จะพิมพ์โดยเลือกคลิกรายการใดรายการหนึ่ง
§ All (ทั้งหมด) พิมพ์ทุกน้า
§ Selection (ช่วงเวลาที่เลือก) พิมพ์เฉพาะข้อความส่วนที่เลือก (ถ้าไม่เลือกข้อความไว้จะ
ไม่ขึ้นข้อนี้)
§ Current Page (หน้าปัจจุบัน) พิมพ์เฉพาะหน้าที่วางเคอร์เซอร์อยู่ในขณะนั้น (เพียงหน้า
เดียว)
§ Pages (หน้า) พิมพ์เฉพาะหน้าที่ระบุในช่อง หรือระบุเป็นช่วง เช่น 2-7, 10 (แต่ละช่วง
คั่นด้วย , หรือ :)
4. คลิกปุ่ม OK
สำหรับตัวเลือกอื่น ๆ ที่สำคัญ คือ
§ Number of copies (จำนวนสำเนา) ระบุจำนวนชุดที่จะพิมพ์
§ Print what (สิ่งที่พิมพ์) เลือกข้อมูลที่จะพิมพ์ข้อมูล เช่น ข้อความในเอกสาร
(Document) หรือรูปแบบที่ใช้ในเอกสาร (Style)
§ Print (พิมพ์) ระบุว่าต้องการพิมพ์อะไรบ้าง
1. Odd pages (หน้าคี่) พิมพ์เฉพาะหน้าคี่
2. Even pages (หน้าคู่) พิมพ์เฉพาะหน้าคู่
3. All pages in range (หน้ากระดาษทั้งหมดที่อยู่ในช่วง) คือทุกหน้าจากหน้าที่เลือกไว้
ในข้อ 3
พิมพ์หลาย ๆ หน้าต่อกระดาษ
การพิมพ์โดยปกติจะได้ 1 หน้า ต่อกระดาษ 1 แผ่น แต่สามารถสั่งพิมพ์หลาย ๆ หน้าลงไปในกระดาษ 1 แผ่น ได้โดยกำหนดตัวเลือก Pages per sheet บนไดอะล็อกซ์บ็อกซ์ Print
2. คลิกเลือกจำนวนหน้าใน Pages per sheet เช่น 2 pages
3. เลือกปรับขนาดกระดาษในหัวข้อ Scale to paper size เช่น A4 ก็จะได้งานพิมพ์ 2 หน้า
ซ้าย – ขวา ในกระดาษ A4 ดังรูป
4. คลิกปุ่ม OK
เบื้องหน้าเบื้องหลังการพิมพ์
การสั่งพิมพ์ที่กล่าวมานั้น เป็นการสั่งพิมพ์แบบเบื้องหน้า (Foreground) คือ ต้องรอโปรแกรม Word ส่งงานออกไปพิมพ์จนหมดเสียก่อน จึงจะใช้งานต่อไปได้ ถ้าเอกสารมีหลายหน้า ก็จะต้องรอจนกว่าส่งงานไปพิมพ์จนเสร็จ แต่เราอาจกำหนดให้ Word พิมพ์งานแบบเบื้องหลังก็ได้ คือ จะทำงานอื่นต่อไปขณะที่ Word ก็ส่งงานออกไปพิมพ์พร้อม ๆ กันด้วย ดังนี้
2. คลิกปุ่ม Options
3. คลิกที่ Background printing (การพิมพ์แบบเบื้องหลัง) ซึ่งข้อมูลที่พิมพ์นั้นก็เป็นข้อมูล ณ ขณะที่สั่งพิมพ์เท่านั้น ไม่ใช่ที่กำลังแก้ไขอยู่หลังจากสั่ง
4. คลิกปุ่ม OK
§ หลังจากนั้น เมื่อสั่งพิมพ์เอกสารใด ๆ จะพิมพ์ไปพร้อม ๆ กับการทำงานอื่นใน Word
โดยมีไอคอนแสดงว่ากำลังพิมพ์หน้าใด ที่แถบสถานะด้านล่าง English (u.s.a)
แบบฝึกหัดหลังเรียน
1. งานในขั้นตอนสุดท้ายของการจัดทำเอกสาร คือ
ก. การบันทึกแฟ้มข้อมูลลงในสื่อต่าง ๆ
ข. การทำสำเนาแฟ้มข้อมูล
ค. การพิมพ์เอกสารออกทางเครื่องพิมพ์
ง. การตกแต่งเอกสารให้สวยงาม
2. การสั่งพิมพ์เอกสารออกทางเครื่องพิมพ์ด้วยการกดปุ่ม Print ควรใช้ในกรณีใด
ก. ต้องการดูรายงานด่วนโดยไม่สนใจรูปแบบหรือความถูกต้อง
ข. สั่งพิมพ์เอกสารอย่างรวดเร็ว
ค. แน่ใจว่ารูปแบบเอกสารและการกำหนดค่าการพิมพ์ถูกต้องดีแล้ว
ง. ถูกทุกข้อ
3. ถ้าสั่งพิมพ์ในกรอบ Page range ในช่อง Pages ว่า “5, 9-10” หมายถึงให้พิมพ์
ก. หน้าที่ 5 และหน้าที่ 9 ถึงหน้าที่ 10
ข. หน้าที่ 5 หน้าที่ 9 และหน้าที่ 10
ค. หน้าที่ 5 ถึงหน้าที่ 10
ง. คำสั่ง Error ไม่สามารถทำการพิมพ์ได้
4. ถ้าต้องการพิมพ์เฉพาะหน้าปัจจุบันที่เคอร์เซอร์อยู่ จะต้องกำหนดที่กรอบ Page range อย่างไร
ก. All
ข. Page
ค. Present Page
ง. Current Page
5. ถ้าเอกสารฉบับหนึ่งมี 50 หน้า แต่ต้องการพิมพ์เฉพาะหน้า 29 ให้ใช้คำสั่ง
ก. All
ข. Page
ค. Print
ง. Current Page
6. ถ้าเอกสารฉบับหนึ่งมี 10 หน้า และต้องการสั่งพิมพ์จำนวน 3 สำเนา จะได้เอกสารทั้งหมดกี่แผ่น
ก. 3 หน้า
ข. 13 แผ่น
ค. 30 แผ่น
ง. สั่งให้พิมพ์หลายสำเนาไม่ได้
7. ถ้าทำการเลือกเครื่องพิมพ์แล้วไม่พบชื่อยี่ห้อ และรุ่นของเครื่องพิมพ์ที่เราจะสั่งพิมพ์ แสดงว่า
ก. เป็นเครื่องพิมพ์รุ่นเก่า ซึ่งโปรแกรม Word 2003 ไม่รู้จัก
ข. เป็นเครื่องพิมพ์รุ่นใหม่ ซึ่งโปรแกรม Word 2003 ไม่รู้จัก
ค. ไม่ได้ต่อสายเครื่องพิมพ์ระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ และเครื่องพิมพ์เอาไว้
ง. เครื่องคอมพิวเตอร์ที่เราใช้งานอยู่ไม่มีไดรฟ์เวอร์ของเครื่องพิมพ์
8. Print Preview คือ
ก. การขอดูเอกสารก่อนพิมพ์จริง
ข. การสั่งพิมพ์เอกสารเพื่อทดสอบเครื่องพิมพ์
ค. การขอดูเอกสารทั้งหมดบนจอภาพ
ง. การสั่งพิมพ์เอกสารอย่างหยาบ ๆ ออกทางเครื่องพิมพ์
9. ถ้าเลือกใช้เครื่องพิมพ์ไม่ตรงกับค่าที่ได้กำหนดไว้ในเครื่อง มักจะเกิดปัญหาตามข้อใด
ก. สั่งพิมพ์แล้วเครื่องพิมพ์ไม่ทำการพิมพ์ให้
ข. พิมพ์เอกสารออกมาเป็นตัวหนังสือที่อ่านไม่ออก
ค. พิมพ์การจัดรูปแบบของเอกสาร เช่น ฟอนต์, ขนาด ฯลฯ ผิดเพี้ยนไป
ง. ถูกทุกข้อ
10. การเลือกเอกสารที่จะพิมพ์เฉพาะหน้าที่กำลังใช้งานอยู่จะต้องเลือกรายการอะไร
ก. All
ข. Pages
ค. Selection
ง. Current Pageเว็บที่เกี่ยวข้อง
http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%82%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A1%E0%B8%A7%E0%B8%A5%E0%B8%84%E0%B8%B3